8 เทคนิค ลดต้นทุนเพิ่มกำไร ให้การทำนา

เพราะการทำนาเป็นอาชีพที่มีค่ามาก ไม่ว่าจะ... ค่าเมล็ดพันธุ์ ค่าปุ๋ย ค่ายาปราบศัตรูพืช ค่าจ้างแรงงาน ค่าวัสดุการเกษตร ค่าไฟฟ้า ค่าน้ำมัน ค่าบำรุงรักษาซ่อมแซมเครื่องไม้เครื่องมือ ฯลฯ เรียกได้ว่า สารพัดค่าใช้จ่ายเลยจริง ๆ 

ซึ่งสำหรับพี่น้องชาวนาแล้ว “ต้นทุนการผลิต” ถือเป็นตัวแปรสำคัญที่จะสะท้อนถึงผล “กำไร” ได้เลยทีเดียว เพราะฉะนั้นแล้ว การควบคุมต้นทุนการเกษตร จึงเป็นอีกวิธีหนึ่งที่จะช่วยให้พี่น้องเกษตรกรสามารถเพิ่มรายได้ให้กับตัวเองได้อย่างง่ายดาย โดยไม่ต้องรอให้เศรษฐกิจฟื้นตัว

และนี่ก็คือ “8 เทคนิค ลดต้นทุนเพิ่มกำไร ให้การทำนา” ที่น้องปุ๋ยขยันนำมาฝากครับ พร้อมแล้วกดอ่านได้เลย!!

✔ ขั้นตอนที่ 1 : ต้องใช้เมล็ดพันธุ์ข้าวคุณภาพดี มีความงอกไม่ต่ำกว่า 80% อัตราที่ใช้ 20 กก./ไร่ นาหว่าน 7 กก./ไร่ นาปักดำและนาโยนกล้า 5 กก./ไร่ ทำให้เพิ่มผลผลิตอย่างน้อย 10%

✔ ขั้นตอนที่ 2 : การเตรียมดิน เช่น ห้ามเผาฟาง เพราะทำลายสภาพดิน ให้พลิกหน้าดินเพื่อกลบฟางข้าว ระบายน้ำเข้านาและใช้สาร พด.2 หมักฟางข้าวอย่างน้อย 2 สัปดาห์ ปรับหน้าดินให้เรียบสม่ำเสมอ นาหว่านน้ำตมให้ทำร่องน้ำเป็นทางระบายอากาศในแปลงปลูกข้าว ทำให้เมล็ดข้าวงอกอย่างสม่ำเสมอ ไม่มีวัชพืชขึ้นในนา ลดค่าใช้จ่ายในการป้องกันและกำจัดวัชพืช

✔ ขั้นตอนที่ 3 : การกำจัดวัชพืช ให้ใช้สารป้องกันกำจัดวัชพืชทันทีหลังหว่านข้าว ก่อนเมล็ดวัชพืชงอก อย่าให้เกิน 4 วัน หลังหว่านข้าวใช้สารกำจัดวัชพืช ให้ตรงตามชนิดวัชพืชที่ระบาด แต่หากการระบาดของวัชพืชไม่ถึง 20% ของพื้นที่นายังไม่ต้องใช้

✔ ขั้นตอนที่ 4 : การใช้ปุ๋ยเคมี ใช้ปุ๋ยเคมีที่ถุงบรรจุระบุว่าเป็นปุ๋ยสำหรับข้าว โดยการใส่ปุ๋ยครั้ง ที่ 1 ให้ใส่ปุ๋ยสูตร 18-8-8 หรือ 40-0-0 อัตรา 25-30 กก./ไร่ ระยะแตกกอ ครั้งที่ 2 ใส่ปุ๋ยสูตร 15-15-15 ทับทิม ระยะตั้งท้องรับรวง อัตรา 25-30 ก.ก./ไร่ ครั้งที่ 3 ใส่ปุ๋ยยูเรียสูตร 40-0-0 อัตรา 10-15 กก./ไร่ ระยะก่อนออกดอก

✔ ขั้นตอนที่ 5 : การป้องกันและกำจัดศัตรูข้าว เกษตรกรต้องปฏิบัติตามขั้นตอนข้างต้น จะทำให้ลดค่าใช้จ่ายในการใช้สารป้องกันและกำจัดแมลงได้

✔ ขั้นตอนที่ 6 : การจัดการน้ำอย่างเหมาะสม หลังทำเทือกเสร็จแล้ว ระบายน้ำออกให้ดินแห้งแบบหมาด ๆ แล้วจึงหว่านข้าวงอก ส่วนระดับน้ำ ช่วงข้าวยังเล็กให้ระดับน้ำอยู่ที่ 5 ซม. ช่วงข้าวแตกกอสร้างรวงอ่อนและข้าวออกดอกให้รักษาระดับน้า 10-15 ซม. การปรับหน้าดินให้เรียบสม่ำเสมอ สามารถลดระดับน้ำในนาโดยลดระยะเวลาการสูบน้ำเข้านาได้ 

✔ ขั้นตอนที่ 7 : การเก็บเกี่ยว ควรเก็บเกี่ยวข้าวระยะพลับพลึง คือ หลังข้าวออกดอก 30 วัน เท่านั้น ให้ระบายน้ำออกจากนาข้าว เมื่อข้าวออกดอกแล้ว 15 วัน และช่วงเก็บเกี่ยว ดินนาต้องแห้ง ซึ่งจะช่วยลดการสูญเสียผลผลิตจากข้าวที่ร่วงระหว่างการเก็บเกี่ยวได้ถึง 20%

✔ ขั้นตอนที่ 8 : เกษตรกรควรทำบันทึกบัญชีฟาร์มอย่างสม่ำเสมอ เพื่อเปรียบเทียบการปลูกข้าวในฤดูถัดไป และเกษตรกรจะเห็นว่าตนเองสามารถลดต้นทุนอะไรได้บ้าง

ขอบคุณข้อมูลจาก : 

- www.sdoae.doae.go.th/News/g_product/rice.pdf

- www.opsmoac.go.th/kamphaengphet-manual-files-421391791817

สอบถามราคาสถานที่จัดจำหน่าย และ ติดตามราคาพืชผลก่อนใครทาง LINE คลิกเลย! https://lin.ee/rNYeQyq

ติดตามคลิปความรู้สนุก ๆ จากน้องปุ๋ยขยันใน TikTok ได้ที่ https://www.tiktok.com/@mongkutfertilizer

#ปุ๋ยตรามงกุฎ #ปุ๋ยขยันทำงานทุกเม็ด #ปุ๋ยขยันเต็มแรง #นิยมทั่วไทย #เกษตรกรรุ่นใหม่ #พันธุ์ข้าว #พันธุ์ข้าวนาปรัง #ข้าวหอมมะลิ105 #ข้าวกข43 #วิธีการใส่ปุ๋ยข้าวให้ได้ผลผลิตสูง #วิธีการใส่ปุ๋ยข้าว3ครั้ง #การใส่ปุ๋ยข้าว #ปุ๋ยใส่ข้าว #ปุ๋ยข้าว #ข้าวตั้งท้องใส่ปุ๋ยสูตรไหน #ลดต้นทุนการทำนา #เพิ่มกำไรการทำนา